ศิลปะทางตะวันออก ศิลปะรูปแบบนี้ มีความเป็นมายังไง วันนี้เรามีคำตอบให้คุณ
ศิลปะทางตะวันออก คือศิลปะที่มีรากฐานมาจาก ประเพณีวัฒนธรรม และความเป็นอยู่ ก่อนจะหล่อหลอมจนกลายเป็น ศิลปะออกมาได้ แต่ละประเทศ สำหรับรูปแบบ ของศิลปะวัฒนธรรมของตะวันออก ที่ได้ค้นพบนั้น อยู่ในช่วงของ ค.ศ.220 ที่มีการขุดพบ เรื่องราวของศิลปะวัฒนธรรมของอินเดีย เป็นภูมิประเทศทางตะวันออก ที่ใหญ่ที่สุดในขณะนั้น สำหรับรูปแบบของศิลปะทางตะวันออก ต่างยกให้ประเทศอินเดีย เป็นบิดาของศิลปะตะวันออก และประเทศจีน เป็นมารดาของศิลปะตะวันออก เนื่องจาก ศิลปะทางตะวันออก จีนมักจะเน้นเรื่องของ งานศิลปะที่มีมาแต่โบราณ และมีการสร้างงานศิลปะ เพื่อมีไว้ชื่นชม และมีการเก็บสะสม โดยพฤติกรรมมีการเก็บสะสม ศิลปะตะวันออก ไทย
ซึ่งงานศิลปะของอินเดีย ศิลปะตะวันออก ไทย ศิลปะตะวันออก ญี่ปุ่น มักจะมีการสร้างสรรค์ออกมา เพื่อเป็นสิ่งที่ ค้ำจุนทางศาสนา ทำให้รูปแบบของ ศิลปะตะวันออกจีน มักจะมีรูปแบบ ที่ใกลกับทางยุโรป เพราะศิลปะตะวันออกจีน มักจะถูกสร้างขึ้นมา เพื่อชื่นชมความงดงาม ไม่ใช่เพื่อศาสนาแต่อย่างใด
ศิลปะทางตะวันออก สำหรับรูปแบบ และความแตกต่างกัน ของศิลปะตะวันออก กับตะวันตกนั้นก็คือ ?
ศิลปะตะวันออก จะยึดเอาจุดเด่น ในเรื่องของธรรมชาติ มารังสรรค์ให้เกิดเป็น ความงามด้านศิลปะ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับ รสนิยมของและความรู้สึก ของผู้สร้างผลงาน ที่มีความหลากหลายทางเวื้อชาติ และศาสนา ซึ่งศิลปะทางตะวันออก มักจะสื่อและแสดงถึงอารมณ์ กับจิตนาการของผู้สร้างผลงาน และแต่ละประเทศ ทางตะวันออก ศิลปะตะวันออก ญี่ปุ่น
ก็มักจะมีรูปแบบ ของงานศิลปะ ที่แตกต่างกันออกไป ตามแต่ละพื้นที่ แต่ละวัฒนธรรม แต่ละยุคสมัย และแต่ละสภาพแวดล้อมอีกด้วย ดังนั้นรูปแบบ ของรูปแบบงานทัศนศิลป์ตะวันออก จึงมักจะแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น ศิลปะตะวันออกอินเดีย ศิลปะตะวันออกขอม หรือ ศิลปะตะวันออกเกาหลี ซึ่งศิลปะวัฒนธรรม ก็จะแตกต่างกันออกไป
เช่นเดียวกับ ศิลปะทางตะวันออกจีน ซึ่งนับว่าเป็นที่น่าสนใจ อีกประเภทของศิลปะจีน สถาปัตยกรรมจีนโบราณ เป็นรูปแบบที่น่าสะสม เนื่องจากทางจีนเอง มีการสะสมศิลปะ มากมายไว้ เพื่อชื่นชมความงาม ในสังคมชั้นสูง มาแต่โบราณ และยังเป็นประเพณีของผู้ร่ำรวย ที่มักจะเก็บสะสม เพื่อแสดงให้ถึงฐานะ ของผู้ที่ครอบครองงานศิลปะ ของแต่ละชนิด
สำหรับศิลปะทางตะวันออกจีน นั้นแบ่งออกเป็น 4 ยุคด้วยกัน
- ยุคของหิน
- ยุคของหยก
- ยุคทองแดง
- ยุคของเหล็ก
และนั้นก็เป็น การแบ่งยุคที่ผ่าน ของศิลปะตะวันออกของจีน ซึ่งจะมีรรายละเอียดของแต่ละยุคอีก ซึ่งทุกท่านสามารถตามอ่านต่อได้ภายในเว็บเรา
ศิลปะทางตะวันออกจีน ที่เฟื่องฟูมาก ในแต่ละยุคแต่ละสมัย ดังต่อไปนี้คือ ?
- ราชวงค์ชาง Shang เป็นช่วงที่เครื่องสำริดเฟื่องฟู อีกทั้งมีการผสมสำริดกับ ทองแดง ดีบุก และตกั่ว ทำพวกเครื่องอุปกรณ์ ที่เป็นภาชนะใส่อาหาร และยังมีการแกะลวดลาย ที่สวยงามมากและที่เป็นสิ่งที่มีชื่อเสียง มากที่สุดคือ หน้ากากที่ชื่อว่า “เถาเทียะ” มีลักษณะเห็นตา และจมูกพร้อมตาที่ ถลนออกมาชัดเจน และการแกะสลักหยก เป็นลวดลายของสมัย ราชวงค์ชางนั้น กลายเป็นศิลปะอันสูงส่ง มากที่สุดของราชวงค์ชาง
- ราชวงค์โจว Chon มีการพัฒนาเรื่อง เครื่องปั้นดินเผา สำหรับเครื่องสำริด และการแกะสลักหยก ในสมัยนี้ ได้รับการพัฒนามากยิ่งขึ้น ฝีมือของช่างในสมัย ราชวงค์โจว กลายเป็นงานที่ละเอียด และซับซ้อนกว่า สมัยรางวงค์ชางเป็นอย่างมาก
- ราชวงค์จิ๋น Chin สำหรับงานศิลปะ ของช่วงรัชสมัยนี้ กลายเป็นที่เล่าขาน และเป็นตำนานของประเทศจีน เมื่อมีกำแพงเมืองจีน ได้เกิดขึ้น และยังมีสุสาน จิ๋นซีฮ่องเต้ อันโด่งดัง เพราะหุ่นดินเผา กองทัพของจิ๋นซี กลายเป็นเรื่องเล่า กล่าวขานอันไม่มีจบสิ้น เพราะการสร้างสุสาน ก่อนที่จะสวรรคตเรียกได้ว่า มีการเตรียมการ กันอย่างยาวนาน และหุ่นดินเผาทั้งทหาร ที่มีลักษณะที่ใกล้เคียง คนจริงพร้อมทั้ง ม้าศึกที่มีลักษณะ เหมือนจริงทั้งกองทัพ กลายเป็นตำนาน ศิลปะทางตะวันออก อันเลื่องชื่ออย่างมาก
- ราชวงค์ฮั่น Han ศิลปะช่วงนี้ เป็นรูปแบบที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเพราะ ประเทศที่ถูกรวบรวมเป็นปึกแผ่นแล้ว ทำให้งานด้านศิลปะ ได้พัฒนามากขึ้น โดยเริ่มมีการพัฒนา รูปแบบของงานศิลปะมากมาย โดยมีงานแกะสลัก แบบลอยตัวเกิดขึ้น พร้อมทั้งความเชื่อในลัทธิเต๋า ทำให้มีการสร้างงานศิลปะ ที่เกี่ยวข้องเกิดขึ้นมากมาย และมีเรื่องราวเกี่ยวกับเทพนิยาย เกิดขึ้นเป็นงานประติมากรรม และมีการผลิต กระดาษออกมาใช้ สำหรับงานเขียนอักษร หรืองานวาดรูป และศิลปะเกี่ยวกับ งานลวดลาย ของเครื่องทองได้ถูกพัฒนาอย่างสูงสุด มีความสวยงามและวิจิตร บรรจงงดงามมากขึ้น
- ราชวงค์จิ้น Jin Of Tsin สำหรับช่วงนี้ เป็นยุคที่ศาสนา เฟื่องฟูมากที่สุด เพราะมีเรื่องราว ความเชื่อด้านศาสนามาใหม่ขึ้น นอกจากลัทธิขงจื้อ และลัทธิเต๋าแล้ว จึงกลายเป็น การพัฒนาไปสู่รูปแบบ ของศิลปะศาสนา โดยมีการสร้าง พระพุทธรูป และสร้างศาสนสถาน อีกทั้งศิลปะช่วงนี้ จะมีความเกี่ยวพันกับ ศาสนาอีกด้วย และเริ่มมีงาน จิตกรรมฝาผนังเพิ่มขึ้นมา โดยเฉพาะในถ้ำตุนหวงที่โด่งดัง ที่เป็นภาพอันเก่าแก่ สวยงามของรูปแบบงานศิลปะ ของพุทธศาสนา
- ราชวงค์ถัง Tang สำหรับรูปแบบ ของงานศิลปะที่เฟื่องฟูมากที่สุด เป็นเรื่องของ เครื่องเคลือบเครื่องปั้นดินเผา ที่เป็นยุคของ งานศิลปะทุกรูปแบบ แต่สำหรับเครื่องเคลือบ ที่โด่งดังมากที่สุดคือ เครื่องเคลือบสามสี ที่มีรูปแบบ การเคลือบและเผา มีคุณภาพสูงที่สุด อีกทั้งลวดลายและวีวัน ที่สวยงามในยุคนั้น
ปัจจุบันศิลปะทางตะวันออกจีน ได้พัฒนามากขึ้น เป็นหลากหลายรูปแบบ
จนกระทั่ง ที่อยู่อาศัยของบ้านพัก ก็ยังมีรูปแบบ และลักษณะที่ยังคง มีศิลปะเข้ามาร่วมด้วย อย่างเช่นลักษณะบ้านจีนโบราณ ที่ถูกสร้างขึ้น ด้วยลักษณะของ อิฐหยาบและมีการฉาบ พื้นผิวให้เรียบ ที่เห็นกันในชนบท อีกทั้งการแกะสลัก ลวดลายบนราวบันได ประตูหน้าต่าง โต๊ะเก้าอี้ และเตียงนอน ที่เป็นศิลปะชนชั้นสูง เพราะงานฝีมือเหล่านี้
สำหรับผู้ที่มีกำลังทรัพย์ ที่มากมายเท่านั้น จึงจะสามารถทำได้ โดยสถาปัตยกรรม ของบ้านจีนโบราณนั้น ถือว่าเป็นอีกศิลปะ ที่ยังคงอยู่ ของประเทศจีน ซึ่งงานศิลปะทางตะวันออกนี้ ถูกเรียกว่า “ซื่อเหอย่วน” ซึ่งรูปแบบ ของการวางผังบ้านนั้น จะมีการยึดติดกับ ฮวงจุ้ย และแบ่งแยกไปตามรูปแบบ ที่ชัดเจนของที่พักอาศัย คือเรือนนอน เรือนบริวาร เรือนรับรอง
บ้านสไตล์จีนโบราณ มักจะมีการสร้าง เรือนแยกกัน สถาปัตยกรรมบ้านจีน ที่มักจะมีการ แกะสลักบานประตู และยังมีเสา และเครื่องเรือนต่างๆ ที่จะสามารถ แสดงได้ถึงฐานะ ของผู้เป็นเจ้าของ นับว่าเป็นรูปแบบ ของงานศิลปะทางตะวันออก ที่ถูกรังสรรค์ออกมา จนกลายเป็นสิ่งที่ สะท้อนออกมาชัดเจน ว่ารูปแบบที่เห็นนั้น เป็นงานศิลปะทางตะวันออกจีน ชัดเจนแน่นอน
ไม่ว่าจะเป็น บานประตูไม้ ที่มีการแกะสลัก เป็นรูปของมังกร นกยูง เสือ ปลา นับว่าเป็นรูปแบบ ที่เห็นแล้วจะรับรู้ได้ทันที ว่าเป็นศิลปะของจีนแน่นอน โดยเฉพาะบริเวณ หลังคาบ้านที่มักจะเห็น มังกรเป็นตัวอยู่บนหลังคานั้น นับได้ว่าการสร้างสรรค์ ผลงานศิลปะทางตะวันออก ของจีนนั้นเป็นรูปแบบ ที่เป็นเอกลักษณ์จริงๆ